3 ทำเลฮอตโครงการ Mixed-Use ครึ่งแรก ปี 2567 ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล
ต.ค. 28
2 min read
0
3
0
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 การพัฒนาโครงการ Mixed-Use ยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็น โครงการวัน แบงค็อก โครงการเซ็นทรัล นครปฐม และโครงการโซลเลซ พหล-ประดิพัทธ์
จากรายงานผลสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารสงเคราะห์ (REIC) เกี่ยวกับโครงการ Mixed-Use ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ณ ครึ่งแรก ปี 2567 พบว่า ผู้พัฒนายังคงให้ความสนใจในการสร้างโครงการ Mixed-Use อย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนที่ดินสิทธิการเช่าระยะยาว (Leasehold) เนื่องจากที่ดินในใจกลางเมืองมีจำนวนจำกัดและราคาปรับตัวสูงขึ้นมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ จากการสำรวจ ณ ครึ่งปีแรกของปี 2567 ยังพบว่า มีโครงการ Mixed-Use ที่อยู่ระหว่างการสำรวจทั้งหมด 138 โครงการ ด้วยพื้นที่ก่อสร้าง (GFA) ทั้งหมด 19,383,617 ตร.ม. โดยทำเลที่ตั้งที่มีโครงการ Mixed-Use มากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่
อันดับ 1 พื้นที่ปทุมวัน เป็นทำเลที่มีอุปทานของพื้นที่ก่อสร้างมากที่สุดเป็นจำนวน 5,932,671 ตร.ม. คิดเป็นร้อยละ 30.61 ของพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมด
อันดับ 2 พื้นที่สีลม-สาทร-บางรัก มีอุปทานของพื้นที่ก่อสร้างจำนวน 2,941,267 ตร.ม. คิดเป็นร้อยละ 28.53 ของพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมด
อันดับ 3 พื้นที่ห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง มีอุปทานของพื้นที่ก่อสร้างจำนวน 2,855,910 คิดเป็นร้อยละ 14.73 ของพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมด
ตัวอย่างโครงการ Mixed-use ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ในพื้นที่ปทุมวัน 1 ในพื้นที่ศักยภาพของกรุงเทพฯ
พื้นที่ปทุมวัน สามารถเดินทางเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบายทั้งรถส่วนตัวและระบบขนส่งสาธารณะ เนื่องจากมีถนนสายหลักในพื้นที่เขต 2 สาย ได้แก่ ถนนพระรามที่ 1 และถนนพระรามที่ 4 ในส่วนระบบขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้านั้นมีความครอบคลุมหลายเส้นทาง โดยมีรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (MRT) ที่มีสถานีสำคัญ เช่น สถานีหัวลำโพง, สถานีสามย่าน, สถานีสีลม และสถานีลุมพินี ซึ่งตั้งอยู่ตามแนวเขตทางด้านทิศใต้ของเขตปทุมวัน นอกจากนี้ ยังมีรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) สถานีสยามซึ่งเป็นสถานีหลักที่ตั้งอยู่ในเขตนี้ โดยทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างสายสีลมและสายสุขุมวิท และมีสถานีอื่น ๆ ในเขตปทุมวัน ได้แก่ สถานีสนามกีฬาแห่งชาติและสถานีราชดำริในสายสีลม รวมถึงสถานีชิดลมและสถานีเพลินจิตในสายสุขุมวิท
โดยภายในเขตพื้นที่ปทุมวัน มีโครงการ Mixed-use ที่ทำการก่อสร้างแล้วเสร็จมาแล้ว กว่า 5 ปีอย่าง สามย่านมิตรทาวน์ (Samyan Mitrtown) ซึ่งเป็นโครงการ Mixed-Use ที่ดึงแนวคิดและการใช้งานที่ตอบโจทย์กับผู้คนในพื้นที่ ทั้งในเรื่องของ การเป็นแหล่งรวมร้านอาหารและตลาดสด ของสามย่าน และ การเป็นย่านแห่งการศึกษาชั้นนำอย่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้แนวคิดชื่อ “Smart & Friendly” ซึ่งสะท้อนถึงความฉลาดและเป็นมิตรที่แสดงถึงความเป็นชุมชนและตลาดเก่าแก่ สามย่านมิตรทาวน์จึงยังคงรักษากลิ่นอายของการเป็นแหล่งอาหารสำคัญของคนในย่าน และเป็นสถานที่ที่นักศึกษาและผู้คนทั่วไปสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้เช่นเดิม แต่ในรูปแบบที่ทันสมัยและครบครันมากขึ้น พร้อมให้บริการอย่างสะดวกสบายในทุกด้าน เช่น การเปิดบริการโซนอาหารตลอด 24 ชั่วโมงที่เสมือนกับตลาดสามย่านที่คึกคักตลอดเวลา เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ Co-Learning Space (C asean Samyan CO-OP) ซึ่งเปิดให้เข้ามาใช้งานและเรียนรู้ได้ตลอดทั้งวัน โดยปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 180,000 คนและมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 1,500 คน เพื่อตอบสนองแนวโน้มของคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตในช่วงกลางคืน และยังมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ลานนมสามย่าน เทศกาลสงกรานต์ และเทศกาลโคมไฟอาร์ต เพื่อเสริมสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับพื้นที่โครงการในพื้นที่โซนเซมิเอาท์ดอร์ หรือ ลานกิจกรรมที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง มีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวบริเวณชั้น 5 เพื่อเป็นสถานที่ผ่อนคลาย รวมทั้งการอำนวยความสะดวกในการเข้าออก โดยสร้างอุโมงค์เชื่อมตรงจากสถานี MRT สามย่านเข้าสู่ตัวโครงการ โดยเรียกว่า “อุโมงค์เชื่อมมิตร” ที่ได้กลายเป็นจุดสำคัญที่ทำให้สามย่านมิตรทาวน์เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยมีผู้ใช้บริการถึง 15,000 คนต่อวัน
อีกทั้งยังก่อสร้างในส่วนของสำนักงาน โรงแรม และที่พักอาศัย ได้มีการคำนึงถึงการใช้งานและความปลอดภัยเป็นหลัก โดยผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ากับระบบในอาคาร เพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการและผู้มาติดต่อ
ความสำเร็จ 5 ปี “สามย่านมิตรทาวน์”
บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT เปิดเผยว่า ปัจจุบันโครงการสามย่านมิตรทาวน์ได้สร้างรายได้จากค่าเช่าประมาณ 1 พันล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็น 10-15% ของรายได้รวม FPT โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สามย่านมิตรทาวน์ได้ต้อนรับผู้มาใช้บริการกว่า 120 ล้านคน มีผู้เข้าใช้เฉลี่ยวันละ 80,000 คน อัตราการเช่าพื้นที่ Retail อยู่ที่ 98% และอาคารสำนักงานมีอัตราการเช่า 97% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอาคารสำนักงานเกรด A ถึง 14.8%
“โรงแรมทริปเปิ้ล วาย” มีอัตราการเข้าพักเกิน 90% ขณะที่คอนโดมิเนียมเช่าระยะยาว "ทริปเปิ้ล วาย เรสซิเด้นซ์" ได้ปิดการขายทั้งหมดตั้งแต่ปี 2565 และปัจจุบันมีราคาขายต่อที่ 160,000 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากราคาเริ่มต้น ส่วนพื้นที่จัดแสดงงาน "สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์" ได้จัดอีเวนต์และการประชุมกว่า 500 งาน ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมจากทั้งภาครัฐและเอกชน อีกทั้งพื้นที่ Retailยังคงเป็นที่สนใจของผู้เช่ารายใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มนักศึกษา อาจารย์ และบุคลากรจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าหลักของโครงการเป็นคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน 70-80% อีก 20-30% เป็นกลุ่มผู้ใหญ่มาพบปะสังสรรค์ ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวมีบ้างแต่ไม่ใช่กลุ่มหลัก โดยข้อได้เปรียบคือการตั้งอยู่ใกล้สถานศึกษา ทำให้มีผู้มาใช้บริการรายปีถึง 20,000 คน ซึ่งเป็นการเติมฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: สามย่านมิตรทาวน์ (Samyan Mitrtown)
สถานที่ตั้ง: 944 ถนนพระรามที่ 4 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
ที่ดิน: 13-3-93.64 ไร่ (กรรมสิทธิ์เช่าที่ดิน 30 ปี)
ประเภทที่ดิน: พ.5 (ที่ดินประเภทพาณิชยกรรม)
ขนาดอาคาร: 222,000 ตารางเมตร
มูลค่าโครงการ: 9,000 ล้านบาท
โครงการ สามย่าน มิตรทาวน์ ถือเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของโครงการ Mixed-Use ในเขตปทุมวัน ซึ่งเป็นทำเลที่มีปริมาณอุปทานโครงการลักษณะนี้มากที่สุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ปทุมวันเป็นย่านศูนย์กลางที่มีความสำคัญทั้งในเชิงเศรษฐกิจ การศึกษา และการคมนาคม ทำให้ทำเลนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาโครงการ Mixed-Use ที่รวมทั้งศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย และพื้นที่สาธารณะเข้าไว้ด้วยกัน
______________________________
ขอบคุณข้อมูลจาก
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC)