สรุปผลประกอบการอสังหาฯ รายได้-กำไร ครึ่งแรกปี 2566
23 ส.ค. 2023
2 min read
0
5
0
เปิดผลประกอบการบริษัทอสังหาฯ จดทะเบียน ช่วงครึ่งแรกของปี 2566 พบ AP เป็นผู้นำด้านรายได้สูงสุด ขณะที่ Sansiri เป็นผู้นำด้านกำไรสูงสุด พร้อมจับตาครึ่งปีหลัง “LWS” คาดการณ์ตลาดอสังหาฯ กทม.-ปริมณฑล ลดลงมาอยู่ที่ 0-5% และยังคงมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องจากครึ่งแรกของปี
แม้ว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งแรกปี 2566 ที่ผ่านมา หลายบริษัทจะแข่งขันกันเปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัด แต่ผลประกอบการกลับไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ โดยพบว่าผลประกอบการมีความผันผวนทั้งด้านรายได้และกำไร ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ภาระหนี้ครัวเรือน อัตราดอกเบี้ยสูง และการยกเลิกการผ่อนคลายมาตรการ LTV รวมไปถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่มีความแน่ชัด ทำให้บั่นทอนกำลังซื้อในภาคอสังหาริมทรัพย์และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง
ผลประกอบการครึ่งแรกปี 2566
ข้อมูลจาก “แอล ดับเบิลยู เอส” หรือ LWS Wisdom and Solution บริษัทวิจัยด้านอสังหาฯ เปิดเผยถึง ภาพรวมผลประกอบการครึ่งแรกปี 2566 ของ 38 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่า ผลประกอบการด้านรายได้รวมอยู่ที่ 153,731.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.50% และมีกำไรสุทธิ 17,251.79 ล้านบาท ลดลง 8.05% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ข้อมูลจาก LWS Wisdom
ในขณะที่ 10 อันดับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถทำรายได้สูงสุดในช่วงครึ่งแรกปี 2566 มีรายได้รวมกันถึง 116,971.37 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 76.08% ของรายได้รวม 38 บริษัทอสังหาฯ ทั้งหมดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมี AP เป็นผู้นำด้านรายได้ มีรายได้รวมอยู่ที่ 18,831.28 ล้านบาท
10 อันดับรายได้สูงสุด
AP รายได้รวม 18,831.28 ล้านบาท
Sansiri รายได้รวม 18,492.64 ล้านบาท
Land and Houses รายได้รวม 14,360.01 ล้านบาท
Supalai รายได้รวม 14,345.70 ล้านบาท
Pruksa รายได้รวม 13,665.36 ล้านบาท
SC Asset รายได้รวม 10,135.69 ล้านบาท
Frasers รายได้รวม 7,891.7 ล้านบาท
Origin รายได้รวม 7,447.81 ล้านบาท
Singha Estate รายได้รวม 6,842.72 ล้านบาท
Property Perfect รายได้รวม 4,958.46 ล้านบาท
ในขณะที่ 10 อันดับบริษัทฯ ที่สามารถทำกำไรสูงสุดในช่วงครึ่งแรกปี 2566 มีกำไรรวมกันถึง 19,051.68 ล้านบาท สูงกว่ากำไรรวมของ 38 บริษัทอสังหาฯ ที่มีกำไรสุทธิรวม 17,251.79 ล้านบาท เนื่องจากมีบริษัทจดทะเบียนขาดทุนสุทธิทั้งสิ้น 14 บริษัท
เปิด 10 อันดับอสังหาฯ กำไรสูงสุด
Sansiri 3,110.84 ล้านบาท
AP 3,022.62 ล้านบาท
Supalai 2,824.12 ล้านบาท
Land and Houses 2,806.19 ล้านบาท
Origin 1,915.27 ล้านบาท
Pruksa 1,730.51 ล้านบาท
Q House 1,261.81 ล้านบาท
SC Asset 1,134.34 ล้านบาท
Frasers 714.43 ล้านบาท*
Asset Wise 531.55 ล้านบาท
*งบการเงินของ Frasers Property Thailand (FPT) เป็นงวดเดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 ซึ่งถือเป็นไตรมาสสองของ FPT ซึ่งเริ่มต้นงบการเงินในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 - 30 กันยายน 2566 ซึ่งแตกต่างจากงบการเงินของบริษัทอสังหาฯ อื่น ๆ ข้อมูลจาก LWS จึงนำงบเฉพาะไตรมาสสองของ FPT มาใช้ประกอบรายงานและเปรียบเทียบสถานะทางการเงินในช่วงเวลาเดียวกันกับบริษัทอสังหาฯ อื่น ๆ ในตลาดหลักทรัพย์
จากข้อมูลข้างต้น Sansiri ถือเป็นผู้นำด้านกำไรสูงสุดในช่วงครึ่งแรกปี 2566 โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,110.84 ล้านบาท แต่หากดูรายละเอียดกำไรสุทธิของทั้ง 10 อันดับบริษัทฯ จะพบว่า กำไรสุทธิของแต่ละบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ โดยบริษัทที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากเดิม ได้แก่ Sansiri, Pruksa, Q House และ SC Asset ส่วนบริษัทที่มีกำไรสุทธิลดลงจากเดิม ได้แก่ AP, Supalai, Land and Houses, Origin, Frasers และ Asset Wise
ส่องโครงการจาก “SANSIRI” ผู้นำด้านกำไรสูงสุด
ข้อมูลจาก แสนสิริ (Sansiri) เผยถึงผลประกอบการของบริษัทฯ ว่ามีรายได้เติบโตในทุกโปรดักส์ ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้จากการขายโครงการที่โดดเด่นทุกกลุ่มที่อยู่อาศัย สำหรับผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกปี 2566 พบว่า รายได้โตขึ้น 63% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากผลประกอบการดังกล่าว นำโดยรายได้จากการขายคอนโดมิเนียม ซึ่งมีรายได้หลักมาจาก โครงการเอ็กซ์ที พญาไท (XT Phayathai) ตามด้วยโครงการเอ็กซ์ที ห้วยขวาง (XT HUAIKWANG), โอกะ เฮ้าส์ (OKA HAUS) และเอดจ์ เซ็นทรัล พัทยา (EDGE Central Pattaya) รวมไปถึงรายได้จากการขายโครงการแนวราบด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโครงการ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและมิกซ์ โปรดักส์
ส่วนไตรมาสที่สองของปี 2566 แสนสิริยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจ โดยเน้นเจาะกลุ่มตลาดลักซ์ชัวรี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ามาโดยตลอด ด้วยการเปิดตัว “นาราสิริ พหล-วัชรพล” (Narasiri Phahol-Watcharapol) โครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี บนทำเลศักยภาพแห่งใหม่ ใกล้ถนนเลียบทางด่วน-รามอินทรา ราคาตั้งแต่ 35 – 90 ล้านบาท และมีมูลค่าโครงการสูงถึง 5,100 ล้านบาท
XT PHAYATHAI
XT HUAIKHWANG
OKA HAUS
EDGE CENTRAL PATTAYA
NARASIRI PHAHOL-WATCHARAPOL
นาราสิริ พหล-วัชรพล เป็นโครงการภายใต้ Sansiri Luxury Collection และถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของแสนสิริที่จะช่วยผลักดันยอดขายในปีนี้และส่งผลต่อภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯ และหากแสนสิริสามารถดำเนินงานได้ตามแผนธุรกิจและกลยุทธ์ที่วางไว้ คาดว่าแสนสิริจะสร้างผลประกอบการเป็น New High ได้อย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความเป็นผู้นำในกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของไทย
ข้อมูลและภาพประกอบ LWS, SET, REIC, Thansettakij, Sansiri