top of page
Clip path group
Clip path group

เมืองในฝันของ Generation Beta ที่คุณอยากให้เป็น?

2 วันที่แล้ว

1 min read

0

0

0




LAD ชวนคุณมาร่วมคิด ร่วมแชร์ไอเดีย: เมืองในฝันของ Generation Beta ที่คุณอยากให้เป็น?


ในวันเด็กแห่งชาติที่หมุนเวียนมาทุกปี เรามักจะได้ยินคำพูดที่เกี่ยวกับการให้โอกาสและการสนับสนุนเด็กๆ ให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและมีศักยภาพในสังคม แต่คำถามสำคัญที่ตามมาคือ สภาพแวดล้อมแบบไหนที่จะหล่อหลอมให้เด็กเหล่านี้เติบโตอย่างสมบูรณ์ทั้งกาย ใจ และปัญญา?


Generation Beta หรือเด็กที่เกิดตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป จะเติบโตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วทั้งในด้านเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม กลุ่มเด็กเหล่านี้ต้องการไม่เพียงแค่บ้านที่มั่นคง แต่ยังต้องการเมืองที่พร้อมสนับสนุนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพอย่างรอบด้าน การออกแบบเมืองจึงต้องมองให้ไกลกว่าจอคอมพิวเตอร์และไอแพด สู่พื้นที่จริงที่กระตุ้นจินตนาการและสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขา


วันนี้ LAD ขอนำเสนอ 5 แนวทางสำคัญในการออกแบบเมืองสำหรับ Generation Beta พร้อมชวนทุกคนมาร่วมคิดและแชร์ไอเดียเกี่ยวกับ "เมืองในฝัน" ที่คุณอยากให้เด็กๆ รุ่นนี้ได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุด เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนร่วมกัน



1. พื้นที่สาธารณะเพื่อการเรียนรู้และเล่นอย่างสร้างสรรค์

การเล่นถือเป็นหัวใจสำคัญของพัฒนาการเด็ก เมืองที่ดี ควรมีการออกแบบพื้นที่สาธารณะอย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ เช่น สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ และพื้นที่ธรรมชาติ ที่สามารถกระตุ้นจินตนาการและการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง การติดตั้งเครื่องเล่นที่เน้นการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและการค้นพบสิ่งใหม่ๆ ช่วยให้เด็กเรียนรู้ไปพร้อมกับความสนุก นอกจากนี้ พื้นที่สีเขียวในเมืองยังส่งเสริมความแข็งแรงของสุขภาพกายและใจ เปิดโอกาสให้เด็กได้ใกล้ชิดธรรมชาติ สร้างสมดุลระหว่างการเล่นและการเรียนรู้นอกห้องเรียน



2. เมืองที่เดินได้ ปลอดภัย และเป็นมิตรกับทุกคน

เมืองที่ดีสำหรับเด็กควรมี พื้นที่เดินเท้า และระบบขนส่งมวลชนที่สร้างทางเลือกอันเป็นมิตรกับครอบครัวและสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างประสบการณ์ที่ปลอดภัยจากอันตราย ทั้งจากการจราจร มลพิษทางอากาศ และเสียงรบกวน นอกจากนี้ การออกแบบและบริหารจัดการพื้นที่ถนนและระบบขนส่งมวลชน ควรเอื้อต่อการเดินทางของคนทุกกลุ่มอย่างมีคุณภาพ และเปิดโอกาสให้เด็กเรียนรู้การใช้ชีวิตและอยู่ร่วมกับผู้อื่น ในสังคมที่มีความหลากหลาย



3. เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและการเรียนรู้

เทคโนโลยีสมาร์ทซิตี้ช่วยยกระดับความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตในเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะที่สามารถป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของเด็ก สร้างความมั่นใจให้ผู้ปกครองพาเด็กๆ ออกมาใช้พื้นที่สาธารณะได้อย่างไร้กังวล นอกจากนี้ เทคโนโลยียังเปิดโอกาสให้เด็กๆ เข้าถึงแหล่งความรู้ออนไลน์ได้ง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุดดิจิทัลหรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้เสมือนจริง ซึ่งช่วยเสริมสร้างศักยภาพและเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น การเรียนรู้นอกกรอบห้องเรียนแบบเดิมกลายเป็นประสบการณ์ที่สนุกและสร้างสรรค์ ทำให้เด็กๆ พร้อมเผชิญโลกอนาคตได้อย่างมั่นใจ



4. พื้นที่ชุมชนที่ส่งเสริมทักษะทางสังคม

เมืองที่ดี ควรสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกับชุมชน เช่น ห้องสมุดกลางแจ้ง พิพิธภัณฑ์ชุมชน หรือกิจกรรมเทศกาลที่กระตุ้นการมีส่วนร่วมของเด็กและครอบครัว พื้นที่เหล่านี้ควรเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมสำหรับเด็กทุกกลุ่ม รวมถึงเด็กที่มีความต้องการพิเศษ หรือมาจากครอบครัวหลากหลายสถานะทางเศรษฐกิจ การพบปะ พูดคุยและแลกเปลี่ยนในพื้นที่ที่ออกแบบอย่างเหมาะสม จะช่วยพัฒนาทักษะทางสังคมและสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน



5. การมีส่วนร่วมของเด็กในกระบวนการวางแผนเมือง

การเปิดโอกาสให้เด็กมีส่วนร่วมในกระบวนการวางแผนชุมชนและเมือง ไม่เพียงช่วยให้พื้นที่สาธารณะถูกออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของพวกเขา แต่ยังเป็นการสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง เด็กๆ จะได้ฝึกแสดงความคิดเห็น มีบทบาทในกระบวนการพัฒนาเมือง และเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น รวมถึงการยอมรับในความคิดเห็นที่แตกต่าง การมีส่วนร่วมนี้ช่วยเสริมสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของและความภาคภูมิใจในพื้นที่ของตนเอง พร้อมปลูกฝังความรับผิดชอบต่อชุมชนในระยะยาว เมื่อเด็กได้เห็นว่าสิ่งที่พวกเขามีส่วนช่วยคิดและเสนอแนะถูกนำไปปรับใช้จริง จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจในการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองที่ดีขึ้นสำหรับอนาคต

.

เมืองเพื่ออนาคต: สร้างสรรค์พื้นที่สำหรับเด็กและสังคมที่ยั่งยืน



สุดท้าย การออกแบบเมืองที่เหมาะสมสำหรับเด็กไม่เพียงส่งผลดีต่อพวกเขา แต่คือการสร้างรากฐานของสังคมที่ยั่งยืน โดยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในสังคม โจทย์ในการออกแบบเมืองสำหรับ Generation Beta จึงไม่ใช่เพียงการสร้างพื้นที่เรียนรู้ แต่คือการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เรียกว่าเมือง เพื่อสนับสนุนให้พวกเขามีศักยภาพในการสร้างสรรค์และเติบโตอย่างเต็มที่ในวันพรุ่งนี้


💡วันเด็กปีนี้ คงถึงเวลาที่เราจะมาทบทวนกันว่า เราได้สร้างบ้านหลังใหญ่ที่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ รุ่นใหม่แล้วหรือยัง … แล้วคุณล่ะ อยากเห็นเมืองในฝันของ Generation Beta เป็นแบบไหน?


แชร์ความคิดเห็นและไอเดียของคุณมาเลย! เพราะอนาคตของเมืองที่ดี เริ่มต้นจากการร่วมมือและจินตนาการร่วมกันวันนี้


#เมืองที่เป็นมิตรกับเด็ก #การออกแบบเมือง #พัฒนาคุณภาพชีวิต #เมืองยั่งยืน #GenerationBeta


ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ

https://urbandesignlab.in/designing-child-friendly-cities/https://www.childfriendlycities.org/https://thecityateyelevel.com/stories/child-friendly-cities-from-an-urban-planners-perspective/

https://www.archdaily.com/972281/author-tim-gill-on-building-child-friendly-cities-in-design-and-the-city-podcast

https://smartgrowthamerica.org/building-a-family-friendly-city/

https://www.growingupboulder.org/child-friendly-cities-initiative.html

https://www.greaterauckland.org.nz/2021/06/28/urban-playground-the-child-friendly-city/

https://www.childhealthinitiative.org/blog/2019/november/four-cities-announced-for-new-global-child-friendly-street-design-programme


2 วันที่แล้ว

1 min read

0

0

0

Comments

Share Your ThoughtsBe the first to write a comment.
bottom of page